5 เหตุผลหลัก ที่ทำให้ trader ล้างพอร์ต พร้อมวิธีแก้ไข
26/01/2017 14:06
5 เหตุผลหลัก ที่ทำให้ trader ล้างพอร์ต พร้อมวิธีแก้ไข
อาการล้างพอร์ตหรือเงินทุนของเราเป็นศูนย์ คงเป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ทุกคนไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้น แต่เทรดเดอร์แทบทุกคนที่เคยเทรด forex คงจะเคยล้างพอร์ต วันนี้เรามาวิเคราะห์กันดีกว่า ว่าเหตุผลหลักๆ อะไรที่ทำให้เทรดเดอร์เหล่านั้น ล้างพอร์ตคืออะไร
1. ไม่มีระบบ – เป็นเหตุผลหลักเลยของเทรดเดอร์มือใหม่ เพราะคนส่วนใหญ่เข้ามาในตลาดคิดว่าตัวเองมีระบบ แต่แล้วไม่ใช่ เนื่องจากระบบที่คนส่วนใหญ่เรียนมานั้นไม่สามารถทำกำไรได้จริง หรือไม่ได้ผ่านการทดสอบว่าทำกำไรได้จริง เพียงแค่เห็นการโชว์กำไรชั่วครั้งชั่วคราว ก็คิดว่าดี แห่ไปเรียน สุดท้ายในระยะยาวแม้ทำตามขั้นตอนทุกอย่าง ก็ยังล้างพอร์ต เพราะระบบนั้นไม่สามารถทำกำไรได้จริงในระยะยาวนั่นเอง
วิธีแก้ – หาระบบที่สามารถทำกำไรได้จริง และนำมาทดสอบ backtest ทดสอบกับกราฟในอดีต และ forward test ทดสอบกับตลาดจริงด้วยเงินทุนเรื่มต้นเพียงเล็กน้อยเพื่อความมั่นใจ
2. สัญญาณกลับทางไม่คัท – เมื่อเรามีระบบเทรด นั่นหมายถึงว่าเรามีวิธีกำหนดจุดเข้า และจุดออก ทั้งในกรณีที่กำไรและขาดทุนเสมอ แต่มนุษย์มักจะทนถือกำไรไม่ค่อยได้ กำไรนิดหน่อยก็จะปิดแต่กลับไม่กลัวการขาดทุน บางคนตั้ง stop loss เอาไว้แล้ว ยังลากหนี หรือยิ่งแล้วใหญ่ เอา stop loss ออก มิหนำซ้ำบางคนยังมโนว่ามันจะต้องกลับไปที่เดิมแน่ๆ เลยปล่อยออร์เดอร์นั้นทิ้งไว้ แต่โชคร้าย วันนั้นกราฟกลับวิ่งเป็น trend และลากออเดอร์ของเค้าให้ติดลบหนัก หรือล้างพอร์ตในที่สุด ถ้าเราย้อนกลับมาดู เราจะพบว่า ถ้าเรายอม cut loss ตั้งแต่แรกและเทรดตามสัญญาณอื่น เราก็กำไรไปแล้ว ฉะนั้นการปล่อยลากจะทำให้เราไม่กล้าเทรดเพิ่มแม้สัญญาณใหม่จะมาก็ตาม
วิธีแก้ – ตั้งจุดทำกำไร Target Price และ จุดยอมขาดทุน Stop loss เสมอ และทำตามระบบอย่างเคร่งครัด
3. อยากเอาคืน over trade – ในบางครั้งแม้เราจะทำตามระบบอย่างเคร่งครัด แต่เมื่อถึงจุดๆ หนึ่งที่เราเสียอาจจะแค่ 5% ของพอร์ต เราอยากจะให้พอร์ตของเราคืนทุนโดยเร็ว สมมติปกติเราเทรด 1 ไม้จะได้กำไรที่ 2-3% แต่เราอยากให้มันคืนทุนไวๆ เราเพิ่ม lot size เป็น 2 เท่า โดยจากที่ปกติเราอาจเทรด 0.05 เรากลับไปเทรด lot 0.1-0.2 โดยในครั้งแรกๆ เรามักจะคืนทุนได้ตามหวัง แต่วันดีคืนดีเมื่อเราทำอีก มันจะมีวันที่เราพลาด ทีนี้พอเราเทรด lot size ใหญ่ขึ้นจิตวิทยาจะทำงาน เราจะไม่กล้า cut loss ตามระบบ และจะเป็นต้นเหตุในการขาดทุนหนักๆ หรือบางคนนอกจากไม่ cut loss แล้ว ยังจะไปเทรดเพิ่ม ยิ่งเทรดเพิ่มหนักๆ ยิ่ง cut loss ไม่ได้จนสุดท้าย ต้อง Margin call หรือล้างพอร์ตถึงจะหยุด
วิธีแก้ – cut loss ตามระบบ หรือตั้ง Stop loss เพื่อยอมเสียในออเดอร์นั้นๆ จากนั้นวิเคราะห์กราฟให้มั่นใจแล้วจึงเทรด
4. สัญญาณมาไม่เทรด – อาการนี้เป็นอาการที่เราเรียกว่า มโน ในบางครั้งที่ระบบบอกให้ buy แต่เรากลับมโน คิดไปเองว่ามันจะกลับ trend รึป่าว มันจะอย่างนู้น อย่างนี้ จนทำให้เราไม่ได้เทรด และเราก็รอ รอจนสัญญาบอกให้ buy อีก อาจจะเป็นครั้งที่ 2 3 4 เราถึงจะลงมือเทรด และมันก็จะกลับ trend จริงๆ ซึ่งนั่นทำให้เราขาดทุน อาการมโนเป็นอาการที่เราชอบคิดว่ากราฟหลอก แต่จริงแล้ว เราต่างหากที่หลอกตัวเอง
วิธีแก้ – ทำตามระบบ สัญญาณมาให้ลองเทรดดูและถึงจะผิดทางก็ยอม cut loss ไปตามระบบ
5. เสียติดๆ กันทุกวัน – เมื่อเราเทรดมาจนถึงจุดๆ หนึ่ง เราไม่ปล่อยลาก ไม่เทรด lot size โง่ๆ หรือ over trade แต่เราจะยอมแพ้เมื่อเราขาดทุนถึงจุดๆ หนึ่ง เช่น 5% 10% ของพอร์ตแล้วแต่เราจะกำหนด ซึ่งจริงๆ แล้วมันเป็นสิ่งที่ดี แต่จิตวิทยาของเราไม่ได้มองเช่นนั้น บางครั้งเมื่อเราเสียติดๆ กันหลายๆ วัน เราจะเกิดความไม่มั่นใจในการเทรด สัญญาณมาเราก็จะไม่เทรด และไปเทรดในจุดที่อาจจะไม่เป็นไปตามระบบ จากนั้นจิตใต้สำนึกเราจะมองแต่การขาดทุน จิตใต้สำนึกจะบอกตัวเองซ้ำๆ ว่าเราจะขาดทุนแล้วหยุด แล้วเราก็จะขาดทุนสะสมทุกๆ วัน จนพอร์ตของเราไม่สามารถกู้คืนกลับมาได้
วิธีแก้ – เราต้องไม่เทรดคนเดียว การมีทีม มีโค้ช หรือมีเพื่อน จะช่วยเตือนสติเรา ในเวลาที่เราคิดลบทีมจะช่วยดึงเรากลับมาให้เราคิดบวก และเมื่อเพื่อนเราคิดลบ เราจะช่วยดึงเพื่อนเราให้คิดบวกเหมือนเรา และที่สำคัญ เราต้องส่งการบ้าน ส่งจุดเข้าให้ทีมดู อย่าอายที่จะโชว์ความผิดพลาด เพราะทีมจะช่วยวิเคราะห์ข้อผิดพลาดช่วยให้เรานำไปปรับปรุงและพัฒนาการเทรดของเราให้ดีขึ้น
